หนังสือ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ” เขียนโดย นะโอะยุกิ ฮนดะ นักเขียนชาวญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน โดยได้ถ่ายทอดเคล็ดลับความสำเร็จของตัวเองผ่านหนังสือเล่มนี้
หนังสือเล่มนี้แบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ภาค ภาคแรกจะพูดถึงแนวคิดพื้นฐานของความสำเร็จสไตล์คนขี้เกียจ ซึ่งก็คือการรู้จักใช้ความขี้เกียจของตัวเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมองว่าความขี้เกียจเป็นแรงผลักดันให้เราหาทางลัดและวิธีทำสิ่งต่างๆ ให้ง่ายและประหยัดแรงที่สุด
ภาคที่สองจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับเคล็ดลับความสำเร็จสไตล์คนขี้เกียจ 57 ข้อ ซึ่งครอบคลุมทุกด้านของชีวิต ทั้งการทำงาน การเรียน ความสัมพันธ์ และการดำเนินชีวิตทั่วไป เคล็ดลับเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีที่ทำได้จริงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างเคล็ดลับความสำเร็จสไตล์คนขี้เกียจ เช่น
- เลือกงานที่ทำแล้วสนุกและท้าทาย เพราะจะทำให้เราอยากลงมือทำโดยไม่รู้สึกขี้เกียจ
- กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้ เพื่อให้เรามีแรงจูงใจในการทำงาน
- แบ่งงานใหญ่ออกเป็นงานเล็กๆ เพื่อให้รู้สึกไม่หนักใจและสามารถจัดการได้ง่าย
- หาวิธีลัดหรือวิธีทำง่ายๆ เพื่อให้ประหยัดเวลาและแรง
- ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น หากทำได้ดีกว่าเรา
หนังสือ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ” เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับคนทุกวัยที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนขี้เกียจที่ต้องการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนขยันและประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องฝืนตัวเอง
ข้อดีของหนังสือเล่มนี้ ได้แก่
- เนื้อหาเข้าใจง่ายและนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
- เน้นการคิดพลิกแพลงและหาวิธีลัด
- ช่วยให้มองความขี้เกียจในแง่มุมใหม่
ข้อเสียของหนังสือเล่มนี้ ได้แก่
- เนื้อหาอาจดูไม่จริงจังสำหรับบางคน
- บางส่วนอาจดูเกินจริงไปบ้าง
โดยสรุปแล้ว หนังสือ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ” เป็นหนังสือที่มีประโยชน์และน่าอ่านสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ครอบครัวนี้มีลูกด้วยกัน 4 คน ได้แก่ ชัย ตุ๊ก อุ๊ด และอิ๊ด พ่อแม่ของเด็กๆ ชื่อ พ่อเลิศ และแม่ณี พ่อเลิศเป็นข้าราชการ แม่ณีเป็นแม่บ้าน
เด็กทั้ง 4 คนเป็นคนขี้เกียจ ไม่อยากทำอะไร ชอบนอนเล่น ไม่ยอมช่วยงานบ้าน พ่อแม่ของเด็กๆ พยายามสอนให้เด็กๆ รู้จักทำงาน แต่ก็ไม่เป็นผล เด็กๆ ก็ยังขี้เกียจเหมือนเดิม
วันหนึ่ง พ่อเลิศได้ซื้อหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ” มาอ่าน พ่อเลิศอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกประทับใจมาก จึงหยิบมาอ่านให้แม่ณีฟัง แม่ณีก็ประทับใจหนังสือเล่มนี้เช่นกัน จึงตัดสินใจอ่านให้เด็กๆ ฟัง
เด็กๆ ฟังหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกสนใจมาก พวกเขาได้เรียนรู้เคล็ดลับความสำเร็จสไตล์คนขี้เกียจจากหนังสือเล่มนี้ พวกเขาเริ่มคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนขยันและประสบความสำเร็จ
เด็กๆ เริ่มลงมือทำตามเคล็ดลับความสำเร็จสไตล์คนขี้เกียจ พวกเขาเลือกงานที่ทำแล้วสนุกและท้าทาย พวกเขากำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้ พวกเขาแบ่งงานใหญ่ออกเป็นงานเล็กๆ พวกเขาหาวิธีลัดหรือวิธีทำง่ายๆ และพวกเขาขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหากทำได้ดีกว่าพวกเขา
ผลปรากฏว่าเด็กๆ ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนขยัน พวกเขาช่วยงานบ้านมากขึ้น พวกเขาตั้งใจเรียนหนังสือมากขึ้น และพวกเขาเริ่มประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ในชีวิต
วันหนึ่ง เด็กๆ เดินเล่นในสวนสาธารณะ พวกเขาเห็นเด็กๆ กลุ่มหนึ่งกำลังเล่นฟุตบอล เด็กๆ อยากเล่นฟุตบอลกับพวกเขา แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะเล่นอย่างไร
เด็กๆ กลุ่มนั้นเห็นเด็กๆ 4 คนยืนดูอยู่ จึงชวนพวกเขามาเล่นด้วยกัน เด็กๆ 4 คนตกลงที่จะเล่นฟุตบอลกับเด็กๆ กลุ่มนั้น
เด็กๆ 4 คนเล่นฟุตบอลได้เก่งมาก พวกเขาเล่นบอลได้เร็วและแม่นยำ เด็กๆ กลุ่มนั้นตกใจมาก พวกเขาไม่เคยเห็นเด็กๆ ขี้เกียจเล่นฟุตบอลเก่งขนาดนี้มาก่อน
เด็กๆ 4 คนเล่นฟุตบอลจนเหนื่อย พวกเขาจึงหยุดพักและนั่งคุยกัน เด็กๆ กลุ่มนั้นถามเด็กๆ 4 คนว่าพวกเขาเล่นฟุตบอลเก่งได้อย่างไร
เด็กๆ 4 คนเล่าให้เด็กๆ กลุ่มนั้นฟังว่าพวกเขาได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ” จากหนังสือเล่มนี้ พวกเขาได้เรียนรู้เคล็ดลับความสำเร็จสไตล์คนขี้เกียจ ซึ่งช่วยให้พวกเขาเปลี่ยนตัวเองเป็นคนขยันและประสบความสำเร็จ
เด็กๆ กลุ่มนั้นฟังแล้วรู้สึกประทับใจมาก พวกเขาตัดสินใจไปซื้อหนังสือเล่มนั้นมาอ่านกัน
เด็กๆ 4 คนมีความสุขมากที่พวกเขาได้ช่วยเหลือผู้อื่น พวกเขารู้สึกภูมิใจที่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนขยันและประสบความสำเร็จ