องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนว่า สหรัฐฯอาจกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 แทนที่จีนและอิตาลีในไม่ช้า หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
มาร์กาเร็ต แฮร์ริส โฆษกหญิงองค์การอนามัยโลก กล่าวเมื่อวันอังคารว่า WHO จับตาตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในอเมริกา จากยอดติดเชื้อหลักพันเมื่อสัปดาห์ก่อน พุ่งเป็นหลักหมื่นในสัปดาห์นี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าสหรัฐฯจะกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในไม่ช้า
โฆษกหญิงองค์การอนามัยโลก เพิ่มเติมว่า ข้อมูลล่าสุดในวันอังคาร ระบุว่า 85% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มาจากสหรัฐฯและยุโรปเป็นหลัก และ 40% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่มาจากสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว
ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดในสหรัฐฯ ตอนนี้ประชาชน 1 ใน 3 ของประเทศ ต้องอยู่แต่ในเคหะสถาน ตามมาตรการของหลายสิบรัฐทั่วประเทศ
ขณะที่ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ คูโอโม เรียกร้องให้รัฐบาลกลางจัดสรรอุปกรณ์การแพทย์และความช่วยเหลือมาให้กับรัฐนิวยอร์กอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งออกโรงคัดค้านแนวคิดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ผลักดันให้ชาวอเมริกันกลับมาทำงานได้ตามปกติ ภายในต้นเดือนเมษายนนี้
โดยนายคูโอโมระบุว่า ตอนนี้รัฐนิวยอร์กขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจถึง 30,000 เครื่อง และเตรียมปรับปรุงหอพักนักศึกษาและโรงแรมเพื่อเป็นโรงพยาบาลเฉพาะกาลในระยะนี้ เพื่อรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากและถือว่ามากสุดในอเมริกา และว่าสถานการณ์โควิด-19 ในนิวยอร์กตอนนี้เลวร้ายกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก จากยอดผู้ติดเชื้อกว่า 25,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และยอดเสียชีวิตอย่างน้อย 210 ราย เฉพาะในนิวยอร์กเพียงรัฐเดียว
ส่วนตัวเลขล่าสุดในสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร มีผู้ติดเชื้อกว่า 50,000 คน และเสียชีวิตกว่า 600 คนแล้ว